ผู้ใช้งานมีการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว ซึ่งอาจจะเป็นจากที่สร้างเอง ( Status update, Profile Picture) หรือ มีคนอื่นสร้างให้ (Tag เพื่อนในรูป) หรือมีระบบสร้างให้ (Tag รูปอัตโนมัต) 2. มีการแสดงอย่างสาธารณะ ว่าผู้ใช้งานคนนั้นมีรายชื่อ Connections ( Friends, Follower) มากน้อยขนาดไหน 3. แทนที่จะต้องเข้าไปดูข้อมูลของผู้ใช้งานคนอื่นๆโดยตรง, Social Network site จะมีบริเวณที่มีการแสดงข้อมูลส่วนกลาง ซึ่งผลิตจาก connection ต่างๆของผู้ใช้งานคนั้น (Facebook new feed, Twitter new feed) สุดท้ายแล้ว จะรู้ไปทำไม? แน่นอนการเข้าใจว่า Social Media เป็นแค่ Facebook, Twitter, Instagram กับ การเข้าใจว่า Social Media เป็นอะไรมากกว่านั้น ก็คงไม่ได้เปลี่ยแปลงองค์ความรู้อะไรเรามากนัก อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าหากเราต้องการจะพยายามเข้าใจอะไรสักอย่างหนึ่ง ก็จะต้องรู้ก่อนว่า มันคืออะไร จึงจะไปต่อได้ ซึ่งผมเชื่อว่าในอนาคต ทุกๆอย่างใน internet ก็จะกลายเป็น Social Media และคำว่า Social Media อาจจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้วก็ได้ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นการดีที่เราจะศึกษาปรากฏการณ์ต่างๆใน Social Media โดยการเข้าใจก่อนว่า Social Media นั้น คืออะไร
0 ซึ่งก็คือเว็บที่แสดงเนื้อหาอย่างเดียว บุคคลแต่ละคนไม่สามารถติดต่อหรือโต้ตอบกันได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยุค 2. 0 ก็มีการพัฒนาเว็บไซต์ที่เรียกว่า web application ซึ่งก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรือโปรแกรมต่างๆ ที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้งานมากขึ้น ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกันได้ผ่านหน้าเว็บ Social Media จึง มีความสัมพันธ์กับเว็บ ดังนี้ - โซเชียลมีเดียส่วนใหญ่จะเป็นเว็บแอปพลิเคชัน 2. 0 ซึ่งจะมีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้และผู้รับข้อมูล - ทีวีและหนังสือพิมพ์ที่เป็นกระดาษเป็นสื่อแต่เป็นสื่อของการสื่อสารทางเดียวผู้รับข้อมูลไม่สามารถตอบกลับผู้ให้ข้อมูลทันทีทันใดได้ แต่โซเชียลมีเดียจะเป็นสื่อที่มีการสื่อสาร 2 ทางกล่าวคือผู้รับข้อมูลสามารถแสดงความคิดเห็นหรือตอบผู้ให้ข้อมูลได้ - การให้ข้อคิดเห็นในบันทึกในบล็อกหรือในวิดีโอ - การพูดคุยผ่านโปรแกรมสนทนาออนไลน์หรือเว็บบอร์ด - การให้ข้อคิดเห็นและบันทึกว่าชอบสไลด์ วิดีโอ YouTube
1. ช่วยประชาสัมพันธ์แบรนด์หรือร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ ร้านค้าออนไลน์ หรือร้านค้าที่มีหน้าร้าน การทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียมีส่วนสำคัญในการช่วยให้คนรู้จักธุรกิจของเรามากขึ้น ทั้งมีสินค้าและบริการอะไรบ้าง ช่วยเพิ่มโอกาสให้คนมาซื้อหรือใช้บริการได้ รวมถึงทำให้รู้ว่าร้านเราอยู่ที่ไหน เพื่อจะได้เดินทางมาได้ 2. ได้ใกล้ชิดผู้บริโภค การใช้โซเชียลมีเดียเป็นการสื่อสารสองทาง ทำให้เราสามารถพูดคุยกับลูกค้าได้โดยตรง และลูกค้าจะเข้าหาเราเองถ้ามีคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่าถูกผูกมัด หรือรู้สึกถูกยัดเยียดข้อมูล อีกทั้งยังเป็นช่องทางที่ดีที่ลูกค้าจะติดตามธุรกิจเรา ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่น สินค้าใหม่ๆ หรือเรื่องราวที่น่าสนใจ โอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อสินค้าก็มีมากขึ้น 3. เจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้ค่อนข้างแม่นยำ การตลาดแบบเดิมๆ อาจจะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายไม่ได้เท่าไหร่นัก แต่ในโซเชียลมีเดียนั้น เราสามารถกำหนดเป้าหมายในการลงโฆษณาได้ เช่น อายุ เพศ ความสนใจ ที่ตั้ง รวมถึงการกำหนดจุดประสงค์ในการลงโฆษณา เช่น เพิ่มการดำเนินการ (เช่น ยอดขาย ผู้เข้าชม) เพิ่มการมีส่วนร่วม (เช่น กดไลค์) อีกทั้งยังมีแพลตฟอร์มที่หลากหลาย สามารถศึกษาพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายของเราได้ว่าชอบใช้แพลตฟอร์มไหน เช่น ถ้าขายเสื้อผ้า กลุ่มลูกค้าอาจชอบใช้อินสตาแกรมมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ก็จะโปรโมทสินค้าของเราได้ตรงจุด 4.
วัดผลและปรับปรุงโฆษณาได้ ข้อดีของการลงโฆษณาทางโซเชียลมีเดียที่สำคัญอีกอย่างคือการวัดผลจากการลงโฆษณาว่าคุ้มกับเงินที่ลงไปหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขาย ถ้าแคมเปญโฆษณาไหนไม่สามารถกระตุ้นยอดขายได้ ก็สามารถปรับเปลี่ยนหรือทดลองรูปแบบโฆษณาอื่นๆ ได้ 5.
ติดอันดับ: สามารถช่วยต่อเรื่องระบบการค้นหา เพื่อให้คำค้น (Keyword) ที่คุณต้องการ หรือคำค้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจชองคุณแสดงผลมากขึ้น รวมทั้งผลักดันเว็บไซต์ของคุณ ให้อยู่ในอันดับที่ดีบนเว็บไซต์ Google อีกด้วย 2. บอกต่อ: เกิดการพูดถึง และเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะใน Marketing Campaign ที่โดดเด่นจนสามารถสร้างกระแส Viral ได้ 3. การสื่อสาร: เป็นการเพิ่มช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างลูกค้าและบริษัทได้มากขึ้น มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ผู้ซื้อสามารถพูดคุยสอบถามข้อมูลกับเจ้าของร้านได้โดยตรง 4. กลุ่มเป้าหมาย: สามารถเลือกระบุเฉพาะเจาะจงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ ผ่านการวางแผนทางการตลาด และกลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบต่าง ๆ 5. ค่าใช้จ่าย: เหมาะสำหรับธุรกิจรายเล็ก หรือ SME ที่สุด เนื่องจากเป็นการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ที่แทบจะไม่เสียเงิน สามารถบริหารจัดการ และวิเคราะห์การตลาดเองได้ด้วยตัวเองผ่านระบบ Analyze ต่างๆที่มีมาให้ในการวิเคราะห์ประมวลผล #SMEsGoOnlineByOSMEP #RMUTT #SMEs ………………………………………………………………… โครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับ SMEs โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ร่วมกับ สำนักส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว. )