Modal auxiliary verbs คือ กริยาช่วยที่มาช่วยขยายความหมายของกริยาแท้ ให้มีความหมายแตกต่างกันไป เช่น will, would, shall, should, can, could, may, might, must Modal verbs กริยาช่วยในกลุ่มนี้ มีลักษณะการใช้ ดังนี้ Will (จะ) ใช้ในการตัดสินใจ ข้อเสนอ ข้อสัญญา การขอร้อง หรือการคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้น เช่น I will do my laundry tomorrow. (ฉันจะซักผ้าพรุ่งนี้) I'll go with you if you want. (ผมจะไปกับคุณถ้าคุณต้องการ) I promise I won't forget you. (ผมสัญญาผมจะไม่ลืมคุณ) Will you pick me up at 7 pm. (คุณจะไปรับฉันเวลา 15. 00 น. ได้มั้ย) I think she won't come. (ผมคิดว่าเธอจะไม่มา) Shall (จะ) ใช้เสนอความช่วยเหลือ หรือข้อเสนอแนะ เช่น Shall I drive for you? (ผมจะขับรถให้มั้ย) Shall we go for a walk. (เราจะไปเดินเล่นกันมั้ย) หมายเหตุ will/shall นี้ นอกจากจะเป็น Modal auxiliary verbs แล้ว ยังเป็น Primary auxiliary verbs กริยาช่วยที่ทำหน้าที่ช่วยกริยาแท้ให้เป็นไปตามโครงสร้างทางไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ในกลุ่ม Future Tenses อีกด้วย can (สามารถ) ใช้อธิบายความสามารถในการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในปัจจุบัน หรือการขอร้อง ขออนุญาตแบบทั่วๆไป เช่น Jane can speak a little Thai.
Verb คือ คำที่บอกถึงการกระทำอย่างชัดเจน หรือ สถานะของการกระทำ เราเรียกว่า " คำกริยา " ชนิดของคำกริยา คำกริยาแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ Main verb คือ คำกริยาหลัก, Auxiliary หรือ Helping Verb คือ กริยาช่วยแท้ และ modal verb คือ กริยาช่วยชนิดพิเศษ 1) Main Verb คือ " กริยาแท้หรือกริยาหลักของประโยค " ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด Action verb คือ คำกริยาหลักของประโยคที่ " บอกการกระทำ " ของประทานประโยค หรือ สถานะของการกระทำหลัก ในประโยคนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น Mark kicks the ball (Main Action Verb) The dog scratched its back (Main Action Verb) The wind rustled the leaves. (Main Action Verb) Linking Verb คือ " กริยาที่เชื่อมเสริม " ประธานของประโยคกับส่วนเสริมประธานประโยค ซึ่งอาจเป็นคำนาม หรือ คำคุณศัพท์ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ว่าเป็นสิ่งเดียวกัน ซึ่งเป็นการขยายความบอกกริยาลักษณะของประธาน ได้แก่ be( is, am, are, was, were, being, been), appear, become, grow, prove, remain, seem, turn และคำกริยาที่บ่งบอกประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้แก่ look, sound, smell, taste, feel I am a teacher. (Main Linking Verb) Sunny feels happy.
(ผมขออนุญาตไปตอนนี้ได้ไหมครับ? ) Can I borrow you book? (ผมขอยืมหนังสือของคุณหน่อยได้ไหม? ) Could I turn in my paper tomorrow? (ผมขออนุญาตส่งงานพรุ่งนี้ได้ไหมครับ? ) (2) การให้อนุญาต ตัวอย่างประโยค You may leave now. (คุณไปได้แล้วครับ) You could have an appointment tomorrow. (คุณสามารถนัดหมายได้พรุ่งนี้) หากไม่อนุญาตให้ใช้ not เติมหลังกริยาช่วยเป็น can not, may not, could not ตัวอย่างประโยค You can't come in just now. (คุณเข้ามาตอนนี้ไม่ได้) กริยาช่วยที่ใช้แสดงการบังคับ (obligation) และความจำเป็น (necessary) (1) should และ ought to ใช้แสดงเชิงบังคับว่าควรจะต้องทำ วิธีใช้คือ ตัวอย่างประโยค You should be ashamed of yourself. (คุณควรจะละอายตัวเอง) She ought to improve her appearance before she looks for a job. (เธอควรจะปรับปรุงบุคลิกของตัวเองก่อนที่จะหางานทำ) (2) should have และ ought to have ใช้แสดงว่าเป็นสิ่งที่ควรจะทำ แต่ไม่ได้ทำลงไป should have + Verb ought to have ตัวอย่างประโยค I should have given you my telephone number. (ฉันควรที่จะได้ให้เบอร์โทรศัพท์ของฉันแก่คุณ) จริงแล้วไม่ได้ให้ เสียใจที่ไม่ได้ให้ The ought to have given us their new address.
(พวกเขาควรที่จะให้ที่อยู่ให้ของพวกเขาแก่เรา) จริงแล้วไม่ได้ให้ที่อยู่ใหม่ไว้ (3) should ยังใช้ในประโยคปฏิเสธหรือคำถาม เช่น ตัวอย่างประโยค You shouldn't smoke so much. (คุณไม่ควรสูบบุหรี่จัดมาก) Should I ask Jane now? (ฉันควรถามเจนแล้วยัง? ) (4) Had better + verb ใช้แสดงความรู้สึกเชิงบังคับว่าควรจะทำ ตัวอย่างประโยค You had better take care of yourself. (คุณควรจะดูแลตัวเอง) (5) had better not + verb เพื่อชี้แนะว่าไม่ควรจะทำสิ่งนั้น ตัวอย่างประโยค He'd better not be late again. (เขาไม่ควรจะมาสายอีก) (6) Must และ have to ใช้แสดงการบังคับ ข่มขู่ว่าจะต้องทำ หรือต้องไม่ทำ (must not) must + Verb have / has to ตัวอย่างประโยค They must be there on time. (พวกเขาจะต้องถึงที่นั่นตรงเวลา (ไม่มีข้อแม้)) You have to study tonight. (คืนนี้คุณจะต้องเรียน (ไม่มีข้อแม้)) You must not disturb him. (คุณจะต้องไม่รบกวนเขา (ห้ามรบกวนเด็ดขาด)) กริยาช่วยที่แสดงความเป็นไปได้ (possibility) และความน่าจะเป็น (probability) (1) may และ might ใช้ may / might + verb ตัวอย่างประโยค She may change her mind. (เธออาจจะเปลี่ยนใจของเธอ) She might have to move to New York.
พจนานุกรม Auxiliary verb: พจนานุกรม ออนไลน์ แปลภาษา คือ อะไร แปลว่า หมายถึง ค้นหาคำศัพท์: หน้าหลัก ภาษาน่ารู้ พจนานุกรมทั้งหมด เพิ่มคำศัพท์ใหม่ หน้าหลัก > พจนานุกรมทั้งหมด > แปล อังกฤษ ไทย อ. สอ เสถบุตร > Auxiliary verb auxiliary verb auxiliary verb กริยานุเคราะห์ คำพ้องความหมาย (Synonym) subsidiary ดูคำอื่นๆในหมวดแปล อังกฤษ ไทย อ. สอ เสถบุตร au au courant au fait au fond au grand serieux au gratin au jus au lait au naturel au revoir ความหมายจาก พจนานุกรมแปล อังกฤษ-ไทย อ. สอ เสถบุตร auxiliary verbภาษาอังกฤษ auxiliary verbภาษาไทย auxiliary verbความหมาย Dictionary auxiliary verbแปลว่า auxiliary verbคำแปล auxiliary verbคืออะไร [n. ] กริยานุเคราะห์ กริยาช่วย (อ่านต่อ... ) ความหมายจาก พจนานุกรมแปล อังกฤษ-ไทย LEXiTRON ความหมายของ auxiliary verb จากพจนานุกรมเล่มอื่นๆ Tweets by andrewbiggs
(เจนสามารถพูดภาษาไทยได้นิดหน่อย) Can I have a cup of coffee? (ผมขอกาแฟสักแก้วได้มั้ย) Can I borrow your car? (ฉันขอยืมรถคุณได้มั้ย) Could (สามารถ) ใช้อธิบายความสามารถในการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในอดีต หรือการขอร้อง ขออนุญาตแบบสุภาพ เช่น Really sorry, I couldn't go to your house yesterday. (ขอโทษจริงๆ ผมไม่สามารถไปบ้านคุณได้เมื่อวานนี้) Could you help me? (คุณช่วยฉันได้มั้ย) Could I smoke? (ผมขอสูบบุหรี่ได้มั้ย) Must (ต้อง) ใช้แสดงถึงความจำเป็น กฎข้อบังคับ ข้อห้าม หรือแสดงความเชื่อมั่น เช่น I must go now. (ฉันต้องไปแล้วหล่ะ) You must not write on the wall. (คุณต้องไม่เขียนบนกำแพง) She must be over 90 years old. (เธอต้องอายุมากกว่า 90 ปีแน่ๆ) May (อาจจะ) ใช้แสดงถึงความเป็นไปได้ การร้องขอ หรือการขออนุญาตแบบสุภาพ เช่น Jim may be home late. (จิมอาจจะกลับบ้านดึก) May I sit here? (ผมขอนั่งที่นี้ได้มั้ย) May I borrow your dictionary? (ฉันขอยืมพจนานุกรมของคุณได้มั้ย) Might (อาจจะ) ใช้ในการขออนุญาตที่สุภาพกว่า may หรือใช้แสดงความเป็นไปได้ที่มีความเป็นไปได้น้อยกว่า may เช่น Might I borrow your money?