เอ็มเบดการ์ ตอนนี้คนพุทธที่ประเทศอินเดียได้เตรียมการต้อนรับ ค่อนข้างน่าตื่นเต้นมาก ซึ่งตรงนั้นจะใช้เวลาประมาณ 12 วัน จะเดินทางวันที่ 28 มี. ค. แล้วกลับมาประเทศไทยวันที่ 10 เม. ย.
สมัครบวช ๒. พิธีตัดปอยผม ๓. พิธีปลงผม ๔. ฝึกภาคสนาม ๕. เตรียมบวช (เป็นนาค รักษาศีล ๘) ๖. แห่นาครอบเมือง ๗. พิธีขอขมาและรับผ้าไตร ณ วัดที่เป็นศูนย์อบรมประจำอำเภอทั่วประเทศ ๘. พิธีบรรพชาพร้อมกันทั่วประเทศ ณ วัดพระธรรมกาย ๙. พิธีอุปสมบทหรือบวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดต่าง ๆ ใน ๗๗ จังหวัดทั่วไทย อนุศาสน์ คำสอนหรือคำชี้แจงที่พระอุปัชฌาย์หรือพระกรรมวาจาจารย์บอกแก่พระภิกษุผู้บวชใหม่หลังจากบวชเสร็จ คล้ายบทปฐมนิเทศ มีข้อบังคับไว้ว่าต้องบอกอนุศาสน์แก่ภิกษุผู้บวชใหม่ จะไม่บอกไม่ได้เพราะเป็นเรื่องที่พระบวชใหม่ต้องรู้เป็นเบื้องต้น เพื่อมิให้ทำผิดพลาดด้วยไม่รู้มาก่อน อนุศาสน์มีเนื้อความกล่าวถึง นิสสัย (สิ่งที่พระภิกษุทำได้) และ อกรณียกิจ (สิ่งที่พระไม่ควรทำ) ดังนี้ 1. เที่ยวบิณฑบาต ชีวิตพระภิกษุในพระพุทธศาสนาไม่มีอาชีพอื่น เช่น อาชีพทำนาทำไร่ ค้าขาย เป็นต้น แต่ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการขออาหารจากชาวบ้าน ความหมายของคำว่า ภิกษุ นัยหนึ่งแปลว่าผู้เห็นภายในวัฏสงสาร อีกนัยหนึ่งแปลว่า ผู้ขอโดยกิริยามิใช่โดยการออกปาก การบิณฑบาตจึงเป็นการเลี้ยงชีพที่บริสุทธิ์สำหรับภิกษุ ตามวิถีทางแห่งพระพุทธศาสนา 2. นุ่งห่มผ้าบังสุกุล ผ้าบังสุกุล คือ ผ้าที่ภิกษุเก็บเศษผ้าท่อนเล็กท่อนน้อยซึ่งตกอยู่ตามพื้นดิน เปื้อนผุ่นไม่สะอาด ไม่สวยไม่งาม โดยที่สุดแม้ผ้าที่เขาใช้ห่อศพ ตกอยู่ตามป่าช้า ภิกษุเก็บมาเย็บปะต่อกันเป็นผืน ซัก เย็บ ย้อมใช้เป็นจีวรสำหรับนุ่งห่ม ปัจจุบันภิกษุใช้ผ้าสำเร็จรูปที่ชาวบ้านถวายได้ 3.
ฝึกสวดมนต์ อุกาสะ ก่อนบวช นาคจะบวชต้องดู!!! - YouTube
เมื่อจบแล้ว ท่านบอกว่า ติสะระณะคะมะนัง นิฏฐิตัง พึงรับว่า อามะ ภันเต ลำดับนั้นพระอาจารย์จะบอกให้รู้ว่า การบรรพชาเป็น สามเณรสำเร็จด้วยสรณคมน์เพียงเท่านี้ ทีนั้นพึงสมาทานสิกขาบท ๑๐ ประการ ว่าตามท่านไปดังนี้ แถบเสียง สมาทานสิกขาบท ๑๐ ประการ ปาณาติปาตา เวระมะณี อะทินนาทานา เวระมะณี อะพรัหมะจะริยา เวระมะณี มุสาวาทา เวระมะณี สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี วิกาละโภชะนา เวระมะณี นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนา เวระมะณี มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี ชาตะรูปะระชะตะปะฏิคคะหะณา เวระมะณี อิมานิ ทะสะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ ฯ (ว่า ๓ หน) 5.