เขตทิวเขา ประกอบด้วย – ทิวเขาแดนลาว เป็นพรมแดนกั้นระหว่างไทยกับพม่า – ทิวเขาถนนธงชัย เป็นพรมแดนกั้นระหว่างไทยกับพม่า มียอดเขาที่สูงสุดของประเทศไทยคือ ดอยอินทนนท์ สูง 2, 565 เมตร – ทิวเขาผีปันน้ำ ประกอบด้วยทิวเขาจอมทอง ขุนตาล ที่ปันน้ำลง 2 ทาง คือ แม่น้ำโขงและแม่น้ำเจ้าพระยา โดยวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ – ทิวเขาหลวงพระบาง เป็นพรมแดนกั้นระหว่างไทยกับลาว 2. เขตที่ราบหุบเขา มีลักษณะเป็นที่ราบแคบ ๆ อยู่ระหว่างแนวเทือกเขาและหุบเขา มีแม่น้ำไหลผ่านมีดินอุดมสมบูรณ์ 3. เขตแอ่งที่ราบ เป็นที่ตั้งถิ่นฐานสำคัญของชุมชนทางภาคเหนือ แม่น้ำสำคัญของภาคเหนือ 1. กลุ่มแม่น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง ได้แก่ แม่น้ำรวก แม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำอิง 2. กลุ่มแม่น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระ ยา ได้แก่ แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน 3. กลุ่มแม่น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำสาละวิน ได้แก่ แม่น้ำเมย แม่น้ำยวม แม่น้ำปาย ลักษณะภูมิอากาศของภาคเหนือ ภูมิอากาศของภาคเหนือส่วนใหญ่เป็นแบบสะวันนา (Aw) คือ อากาศร้อนชื้นสลับกับฤดูแล้ง อุณหภูมิเฉลี่ยประจำปีอยู่ระหว่าง 24 -27 องศาเซลเซียส มีฤดู 3 ฤดู คือ ฤดูฝน (พ. ค. - ต. ) ฤดูหนาว (ต. – ก. พ. )
และ เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรครูประชาบาล (ป. ) อีกระดับหนึ่ง ต่อมาในปี พ. 2485 ได้เป็นชื่อเป็น "โรงเรียนฝึกหัดครูอุตรดิตถ์" เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ. 2491 และ เปิดสอนหลักสูตร ประกาศนียบัตรครูมูล (ป. ) เพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง ในปี พ. 2492 จนถึงปี พ. 2498 จึงได้เปิดสอนหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา (ป. กศ. ) และเลิกสอนหลักสูตรอื่น ๆ ที่สอนมาแต่เดิม จนกระทั่งวันที่ 25 พฤษภาคม พ. 2511 ได้ยกฐานะเป็น "วิทยาลัยครูอุตรดิตถ์" เปิดสอนถึงระดับประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป. สูง) และได้ขยายพื้นที่วิทยาลัย เพิ่มขึ้นเป็น 190 ไร่ 1 งาน 79 ตารางวา ในปีต่อมา ได้มีการขยายปริมาณงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อจำนวนนักเรียนที่ต้องการเข้าเรียนในวิทยาลัยครูมากขึ้น และความต้องการครูมีมาก จนต้องเปิดสอนให้แก่บุคลลากรภายนอก (ภาคค่ำ) เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ. 2512 และเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรครูประถม (ป. ) เพิ่มขึ้น ตามความต้องการของต้นสังกัดต่างๆ ในปี พ. 2513 หลังจากที่ได้มีการตราพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ. 2518 ขึ้นแล้ว วิทยาลัยครูอุตรดิตถ์ ได้รับการยกฐานะเป็น วิทยาลัยครู ตามพระราชบัญญัตินี้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.
เตรียมความพร้อมของบุคลากรและนักศึกษา ด้านการศึกษา ศิลปะและวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับการรองรับเงื่อนไขของประชาคมอาเซียน จุดหมาย จุดหมายของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ตามแผนพัฒนาการศึกษา พ.
๒๕๔๑ ชื่อหน่วยงานก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงยังคงเรียก "กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค ๖" เช่นเดิม ต่อมาเมื่อ 30 มิถุนายน พ. 2548 ได้มี พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ. 2548 และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็น กองบังคับการ หรือส่วนราชการ จึงได้เรียกชื่อหน่วยเป็น ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 รับผิดชอบบังคับบัญชา งานอำนวยการ งานศูนย์ข้อมูลและการข่าว กลุ่มงานสืบสวน กลุ่มงานสวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี และกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ มีหัวหน้าหน่วยงาน เรียกว่า "รองผู้บังคับการ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6" และตาม พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ. 2552 ได้เปลี่ยนชื่อหน่วยเป็น "กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6" มีหัวหน้าหน่วยงานเรียกว่า "ผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6" จนถึงปัจจุบัน
ครูโต๊ะ เกิดประมาณ พ. ศ. 2440 เป็นบุตรคนที่ 2 ของนายสอนและนางขำ เป็นนักมวยที่มีอาวุธหนักหน่วงและเชิงเตะ เข่า และหมัดรวดเร็ว 2. ครูโพล้ง เกิดปี พ. 2444 มีอาวุธมวยไทยรอบตัว โดยเฉพาะลูกเตะที่ว่องไว และรุนแรง และความสามารถในการถีบอย่างยอดเยี่ยม จนได้รับฉายาว่า มวยตีนลิง ครูโพล้งมีเอกลักษณ์การไหว้ครูร่ายรำตามแบบฉบับของสำนักท่าเสา ในจำนวน 5 คน ครูโพล้ง มีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุด เมื่อมาชกกรุงเทพ ฯ เคยชนะ นายสร่าง ลพบุรี และครูบัว วัดอิ่ม เคยชนะนายสิงห์วัน ประตูเมืองเชียงใหม่ ที่เชียงใหม่ และนายผัน เสือลาย ที่โคราช แต่เคยพลาดท่าแพ้ นายสุวรรณนิวาสวัด ที่กรุงเทพ ฯ ครั้งหนึ่ง เพราะโดนจับขาเอาศอกถองโคนขาจนกล้ามเนื้อพลิก 3. ครูฤทธิ์ เกิดปี พ. 2446 มีฝีมือไม่ยิ่งหย่อนกว่าพี่น้องทั้งหลาย เคยชกชนะหลายครั้งที่กรุงเทพ ฯ และเคยชกเสมอ บังสะเล็บ ครูมวยคณะศรไขว้ (ลูกศิษย์ครูแสง อุตรดิตถ์ผู้สืบทอดสายมวยพระยาพิชัยดาบหัก) 4. ครูแพ เกิดปี พ. 2447 เป็นนักมวยเลื่องชื่อระดับครูโพล้ง เคยปราบ บังสะเล็บศรไขว้ ชนิดที่คู่ต่อสู้บอบช้ำมากที่สุด และชก นายเจียร์ พระตะบอง นักมวยแขกครัวเขมรถึงแก่ความตายด้วยไม้หนุมานถวายแหวน ทางราชการจึงกำหนดให้มีการสวมนวมแทนคาดเชือก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 5.
กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค ๖ เป็นหน่วยราชการระดับ กองบังคับการ สังกัดตำรวจภูธรภาค 6 ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่ง ส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ. ศ.